ในปี พ.ศ. 2563 ตลาดการปลูกผมถาวรทั่วโลก มีมูลค่าประมาณ 147 พันล้านบาท และคาดว่าจะขยายตัว ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี 15.4% ระหว่างปี พ.ศ. 2564 ถึง พ.ศ. 2571 โดยปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตตลาดนี้ คือ การเพิ่มขึ้นของภาวะผมร่วงจากพันธุกรรม (androgenetic alopecia) ตลาดนี้ได้รับแรงผลักดัน เนื่องจากเทคนิคปลูกผมแบบต่าง ๆ เช่น การปลูกผมถาวรแบบย้ายเซลล์รากผม ทั้งแบบเทคนิค FUE และแบบเทคนิค FUT มีอัตราความสำเร็จที่เพิ่มสูงขึ้น และ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับการปลูกผมถาวร ยิ่งไปกว่านั้น เหตุผลหลักที่ทำให้การปลูกผมถาวรเป็นที่ต้องการ คือ การพัฒนาเทคนิคการปลูกผมแบบแผลเล็ก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตามที่ระบุไว้ โดยสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery) ในปี พ.ศ. 2562 มีการผ่าตัดปลูกผมประมาณ 735,312 ครั้งทั่วโลก และมีผู้ป่วยประมาณ 681,964 ราย ที่เลือกใช้การปลูกผมถาวรเช่นเดียวกัน

ในจำนวนนี้ 84.2% เป็นผู้ชาย และ 15.8% เป็นผู้หญิง โดยจำนวนผู้ชายที่เข้ารับการปลูกผมเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ชายจำนวนมากมักมีปัญหาผมร่วงจากพันธุกรรมที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชาย Dihydrotestosterone (DHT) ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดการปลูกผม คือความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการปลูกผม และโรคในรูปแบบต่าง ๆ ที่นำไปสู่ปัญหาผมร่วง

ตามรายงานที่เผยแพร่โดยสมาคมเส้นผม (Hair Society) พบว่าทั่วโลกมีผู้ชายกว่า 35 ล้านคน และผู้หญิงกว่า 21 ล้านคน ที่ประสบปัญหาผมบาง หรือผมร่วง และในจำนวนนี้ ในแต่ละปีมีผู้คนมากกว่า 650,000 คนที่เข้ารับการปลูกผม ซึ่งเป็นทางเลือกการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด การเพิ่มขึ้นของโรคผมร่วงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดตลาดการผ่าตัดปลูกผมเติบโตโดยสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) ประมาณการว่ามีการผ่าตัดปลูกผม 735,312 ครั้งทั่วโลก ในปีพ.ศ. 2562 เพิ่มขึ้นถึง 16% จากปี พ.ศ. 2559 ซึ่งมีการผ่าตัดปลูกผม 635,189 ครั้งทั่วโลก ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่ามีผู้คนจำนวนมากทั่วโลกกำลังเข้ารับการปลูกผมถาวร ซึ่งส่งผลให้ตลาดปลูกผมถาวรเติบโตขึ้น

Our-History

“ผมไม่ได้เริ่มต้น BEQ จากความฝันที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่เริ่มจากผู้ชายคนหนึ่งที่เห็นว่า… การไม่มีเส้นผม ไม่ได้พรากแค่ภาพลักษณ์ของคน แต่พรากความมั่นใจ ความกล้าใช้ชีวิต และตัวตนของเขาไปด้วย”

ตลอดระยะเวลากว่า 17 ปีที่ผ่านมา BEQ ไม่ได้เพียงแค่ “ปลูกผม”

แต่เราปลูกคืน “ความมั่นใจ” ให้กับผู้คน ผ่านกระบวนการรักษา การดูแล และความเข้าใจในสิ่งที่อยู่ “ลึกกว่าเส้นผม” เพราะในสายตาของเรา ปัญหาเส้นผมไม่ใช่เรื่องความสวยงามภายนอก แต่คือคุณค่าของการมองตัวเองด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง

จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ เราเติบโตจากคลินิกเฉพาะทาง มาเป็นกลุ่มธุรกิจที่ครอบคลุมทุกมิติของการดูแลเส้นผม ทั้งการวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยี ไปจนถึงการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ

เป้าหมายของเราไม่ใช่แค่การรักษา แต่เป็นการเปลี่ยนชีวิตของคนคนหนึ่ง และเรากำลังขับเคลื่อน BEQ ให้กลายเป็นศูนย์กลางการปลูกผมแห่งเอเชีย ในอนาคตอันใกล้

“เราทำเพื่ออนาคตของคนไข้แต่ละคน… เพราะทุกเคสไม่ใช่แค่กราฟต์ แต่คือความหวัง ความศรัทธา และคุณค่าที่เราต้องรับผิดชอบ” เราดำเนินธุรกิจภายใต้หัวใจหลักว่า “ประโยชน์สูงสุดของลูกค้า”

ไม่ใช่แค่สิ่งที่พูด แต่คือสิ่งที่เราคิดในทุกขั้นตอน เราจะไม่เลือกวิธีที่ง่ายที่สุด แต่จะเลือกวิธีที่ “เหมาะสมที่สุด” สำหรับคน ๆ นั้น

BEQ ยังคงมุ่งมั่นในการวิจัย พัฒนาบุคลากร และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้เราส่งมอบทั้ง “ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด” และ “ประสบการณ์ที่ดีที่สุด” ให้กับผู้ที่ไว้ใจเรา

“เพราะการปลูกผม… สำหรับเรา มันคือการปลูกอนาคต ความภาคภูมิใจ และโอกาสของใครบางคน ให้กลับคืนมาอีกครั้ง”

พรศักดิ์ เจียมสว่างพร

CEO & Co-Founder of BEQ Group

BEQ HAIR HOSPITAL

โรงพยาบาลอีอีคิว โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านการปลูกผม

ธุรกิจเส้นผม และหนังศีรษะ มีการเติบโตขึ้นอย่างมาก เพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้นของคนในประเทศ และชาวต่างประเทศ

BEQ GROUP โดย คุณพรศักดิ์ เจียมสว่างพร CEO & Co-Founder of BEQ GROUP มีนโนบายการปรับเปลี่ยนการดูแลผู้เข้ารับบริการในรูปแบบที่ใหญ่ขึ้น และเพื่อสร้างมาตรฐานสู่สากล จากคลินิกเวชกรรม มาเป็น โรงพยาบาลบีอีคิว โดยโครงการนี้ จะเป็นการเปิดตัวโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านเส้นผม และหนังศีรษะแห่งแรกของประเทศไทย โดยโรงพยาบาลบีอีคิว จะอยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งโครงการโรงพยาบาลบีอีคิวนี้จะเริ่มตั้งแต่ปี 2567