ในอดีต การปลูกผมอาศัยทักษะของแพทย์ และความชำนาญในการประเมินแนวไรผมด้วยสายตา แต่ในปัจจุบัน การแพทย์ได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่เทคโนโลยีเข้ามาเสริมการวางแผนอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะ AI และ 3D Simulation ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในคลินิกปลูกผมระดับแนวหน้า
ที่ BEQ GROUP เทคโนโลยีหลักที่ใช้คือ FolliclesForge AI และเทคนิคเฉพาะทาง Precision Hair Transplant ซึ่งเปลี่ยนกระบวนการปลูกผมให้แม่นยำขึ้น ปลอดภัย และคาดการณ์ผลลัพธ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
FolliclesForge AI คืออะไร?
FolliclesForge AI คือระบบ AI ที่ BEQ GROUP พัฒนาร่วมกับนักวิจัยเฉพาะทางด้านเส้นผม โดยใช้การวิเคราะห์หลายมิติ เช่น ความหนาแน่นของเส้นผมบริเวณ Donor Area, ความกว้างของพื้นที่ผมบาง, ทิศทางและมุมของแนวไรผมเดิม และสัดส่วนใบหน้าเฉพาะบุคคล
จากข้อมูลเหล่านี้ AI จะประมวลผลเพื่อออกแบบแนวผม และจำนวนกราฟต์ที่เหมาะสมที่สุดกับใบหน้าของแต่ละคน ไม่ใช่แค่ “สวย” แต่ต้อง “สมดุล” และ “ยั่งยืน”
3D Simulation ออกแบบแนวไรผมใหม่ เห็นก่อนปลูกจริง
BEQ ใช้ระบบ 3D Hairline Design ที่เชื่อมต่อกับ FolliclesForge AI ทำให้คนไข้สามารถเห็นแนวผมใหม่แบบจำลอง 360 องศาก่อนการปลูกจริง เหมือนการลองทรงผมในอนาคต ซึ่งช่วยให้ผู้รับบริการ
- มีส่วนร่วมในการออกแบบแนวไรผมร่วมกับแพทย์
- ปรับความโค้ง ความลึก หรือสัดส่วนแนวผมให้ตรงใจ
- มั่นใจในผลลัพธ์ ลดความกังวลก่อนเข้ารับบริการ
Precision Hair Transplant เมื่อทุกกราฟต์คือความสำคัญ
หลังจากวางแผนด้วย AI และ 3D ระบบ Precision Hair Transplant จะนำแผนนั้นไปสู่การปฏิบัติจริงอย่างแม่นยำ โดยทีมแพทย์จะ
- ปลูกผมตามแผนที่ FolliclesForge AI สร้างไว้
- ประเมิน และคำนวณจำนวนกราฟต์ด้วยระบบ AI ได้อย่างแม่นยำ
- ใช้อุปกรณ์ ที่ออกแบบพิเศษเพื่อควบคุมทิศทาง และความลึก
คัดกรองกราฟต์อย่างละเอียด เพิ่มอัตราการรอดชีวิตของเส้นผมให้สูงสุด - ประเมินผล และติดตามผลตลอดระยะเวลา 12 เดือน
ผลลัพธ์ที่วัดได้ ไม่ใช่แค่ขึ้น แต่ต้องขึ้นอย่างสวย และแม่นยำ
หนึ่งในจุดแข็งของระบบ AI และเทคนิค Precision Hair Transplant คือ ความแม่นยำระหว่างการประเมินผลลัพธ์ล่วงหน้า กับ ผลลัพธ์จริงหลังการปลูกผม โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับเทคนิคต่างๆ เช่น
เทคนิค NeoGraft®+
คือเทคโนโลยีปลูกผมที่ถูกพัฒนาเพิ่มเติมในเวอร์ชันเฉพาะ โดย
- ใช้หัวดูดอัตโนมัติที่ควบคุมแรงดันและความเร็ว ลดความเสียหายของกราฟต์
- เพิ่มความสม่ำเสมอในการเก็บกราฟต์จาก Donor Area
- เร็วกว่า FUE ปกติ 30–40%
- ลดความเมื่อยล้าของแพทย์ ส่งผลให้คุณภาพการปลูกเส้นต่อเส้นดีขึ้น
- เหมาะกับทั้งผู้ชาย และผู้หญิงที่มีพื้นที่ปลูกขนาดใหญ่ หรือมีเวลาจำกัด
NeoGraft+ คือเทคโนโลยีที่ “ช่วยแพทย์ทำงานได้แม่นยำขึ้น” และ “เพิ่มอัตราการรอดของกราฟต์ผมได้สูงสุด”
Long Hair DHI
ที่ให้ผลลัพธ์เห็นทันทีหลังทำ ไม่ต้องรอผมงอกใหม่เป็นเดือน
- ก่อนปลูก : FolliclesForge AI ประเมินแนวไรผม ความหนาแน่น และจำนวนกราฟต์ พร้อมสร้าง 3D Simulation ให้เห็นภาพล่วงหน้าอย่างละเอียด
- หลังปลูก : เมื่อปลูกด้วยเทคนิค Long Hair DHI ซึ่งใช้เส้นผมจริงแบบไม่โกน และปลูกแบบเส้นต่อเส้นตามแผน AI ผลลัพธ์ที่ได้ใกล้เคียงกับ Simulation สูงมากถึง 90–95%
การปลูกผมนี้ช่วยให้คนไข้รู้สึกมั่นใจ และพึงพอใจอย่างแท้จริง เพราะสิ่งที่เห็นก่อนทำ…เกิดขึ้นจริงหลังทำ
จากสถิติภายในของ BEQ GROUP ผู้ที่ได้รับการปลูกผมด้วยระบบ AI และ Precision Hair Transplant มีอัตราการพึงพอใจสูงถึง 95% และผลการติดตามพบว่า
- แนวไรผมดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการประเมินด้วยสายตา
ลดการใช้กราฟต์เกินความจำเป็น ช่วยให้ยังเหลือเส้นผมสำหรับอนาคต
เพิ่มอัตราการรอดของเส้นผมใหม่ที่ปลูกไป
โอกาสลงทุนในธุรกิจปลูกผมยุคใหม่
อุตสาหกรรมปลูกผมทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นทั้งความมั่นใจ สุขภาพ และบุคลิกภาพ เทคโนโลยีอย่าง FolliclesForge AI และ Precision Hair Transplant ได้เปลี่ยนการปลูกผมจากหัตถการธรรมดา ให้กลายเป็น “นวัตกรรมทางการแพทย์ที่สร้างมูลค่าได้สูง”
BEQ GROUP จึงเปิดรับพันธมิตรและนักลงทุนที่มองเห็นอนาคตของอุตสาหกรรมสุขภาพเส้นผม พร้อมโมเดลธุรกิจที่สามารถขยายแฟรนไชส์ ด้วยมาตรฐานระดับวิจัย และแพลตฟอร์มดิจิทัลที่พร้อมรองรับตลาดสากล
สรุป
การปลูกผมไม่ใช่แค่ “ทำให้ขึ้น” แต่ต้อง “วางแผนให้แม่นยำ” และ “ปลูกให้สมดุล” เทคโนโลยีอย่าง FolliclesForge AI และ 3D Simulation เมื่อทำงานร่วมกับเทคนิค Precision Hair Transplant จึงกลายเป็นหัวใจของการสร้างผลลัพธ์ที่มั่นใจได้
ที่ BEQ GROUP เราเชื่อว่าเส้นผมของคุณสมควรได้รับการออกแบบอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่เพียงแค่คาดเดา และเรายินดีเป็นผู้ชำนาญการที่วางอนาคตใหม่ให้คุณ…เส้นต่อเส้น